|
|
|
|
........ |
........ |
|
........ | ........ |
ไทยจับมือเยอรมนี
เปลี่ยนผ่านพลังงาน ขับเคลื่อนอนาคตที่ยั่งยืน |
|
........ |
........กรุงเทพฯ,
12 มีนาคม 2564 - สถานเอกอัครราชทูตเยอรมนีประจําประเทศไทย ร่วมกับองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน
(GIZ) เปิดงาน "พลังงานสะอาดขับเคลื่อนอนาคต" ที่สามย่านมิตรทาวน์ กรุงเทพฯ
โดยมีนายเกออร์ก ชมิดท์ เอกอัครราชทูตเยอรมันประจําประเทศไทย นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์
รองปลัดกระทรวงคมนาคม และดร. พูลพัฒน์ ลีสมบัติ ไพบูลย์ ผู้อํานวยการกองการต่างประเทศ
สํานักงานปลัดกระทรวงพลังงาน ให้เกียรติเป็นประธาน ........งานนี้จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนําเสนอการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานและการคมนาคมขนส่งของโลกและประเทศไทยจาก
ปัจจุบันไปสู่อนาคตที่จะมีการนําเอาเทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ๆ มาปรับใช้เพื่อให้เกิดการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ต้นทุนลดลง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับพลังงานสีเขียวและการคมนาคมขนส่งที่ยั่งยืน
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการแสดงแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดของประเทศไทยและเยอรมนีผ่านนิทรรศการและกิจกรรมร่วมสนุก ........นายเกออร์ก
ชมิดท์ เอกอัครราชทูตเยอรมันประจําประเทศไทย กล่าวในพิ ธีเปิ ดว่า "Less is
more ในที่นี้ หมายถึง ลด ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมให้น้อยลง เพื่อปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีให้มากขึ้น
และเราจะลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับ ระบบนิเวศและมีชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างไร นิทรรศการนี้มีคําตอบ
โดยนิทรรศการนี้ได้ให้แนวคิดและแนวทางปฏิบัติเพื่อเสริมสร้าง อนาคตที่ดี มั่งคั่งและยั่งยืน
เราทุกคนสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงนี้ได้" ........นายสรพงศ์
ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า "กระทรวงคมนาคมตระหนักถึงความสําคัญของนวัตกรรม
สมัยใหม่ที่จะนําไปสู่การเปลี่ยนแปลงในภาคการขนส่ง ทางกระทรวงฯ สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดและการพัฒนาเทคโนโลยี
การขนส่งที่ยั่งยืน สะอาด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากภาคการขนส่งมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากเป็นอันดับ
2 ของ ประเทศ ซึ่งมาจากการขนส่งทางถนนเป็นหลัก ประเทศไทยจึงได้จัดทําแผนปฏิบัติการเพื่อสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ
โดยมีมาตรการต่างๆ เพื่อการพัฒนาและส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในระบบขนส่งสาธารณะ
และยังสอดคล้องกับแนวทางการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศที่มีสาเหตุมากจากการจราจรติดขัดในเขตเมืองในปัจจุบันองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ
หรือ ขสมก. กําลังวางแผนจัดหารถเมล์ไฟฟ้า 2,511 คัน หลังจากที่แผนฟื้นฟูกิจการ ได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี
ผมเชื่อว่าในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้คนกรุงเทพฯ จะได้ใช้รถเมล์ไฟฟ้า นอกจากนี้
กรมการขนส่งทางบกยังได้ร่วมรณรงค์การลดมลภาวะทางอากาศโดยการลดภาษีรถยนต์ประจําปีสําหรับรถยนต์ไฟฟ้า
เพื่อให้การใช้งาน ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยแพร่หลายดังเช่นประเทศต่างๆ ในยุโรป" |
........ |
|
|
........"อีกหนึ่งโครงการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาการขนส่งในเมือง
คือ การเปิดใช้งานสถานีกลางบางซื่อในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2564 นี้ ซึ่งเป็นการพัฒนาโครงการภายใต้แนวคิดเมืองอัจฉริยะ
เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนภายใต้นโยบาย Thailand 4.0 โดยสถานีกลางบางซื่อเป็นตัวแทนของศูนย์กลางของระบบการขนส่งทางรางของประเทศไทย
ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาค อาเซียน สามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 600,000 คนต่อวัน
มากกว่าสถานีหัวลําโพงถึง 10 เท่า และยังเป็นจุดศูนย์กลางการ เชื่อมต่อระบบการขนส่งทางรางที่มีอยู่ในปัจจุบัน
รวมถึงรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และอู่ตะเภา เมื่อ แล้วเสร็จจะมีระยะทางรวม
220 กิโลเมตร และเป็นจุดตั้งต้นของรถไฟความเร็วสูงสายแรกของไทย เส้นทาง กรุงเทพ-หนองคาย
ซึ่งกําลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ระยะทางประมาณ 600 กิโลเมตร ในอนาคตสถานีกลางบางซื่อจะกลายเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจแห่งใหม่
และเป็นจุดเชื่อมต่อหลักของระบบการขนส่งมวลชนทางรางของกรุงเทพมหานคร และในขณะนี้
กระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างการศึกษาโครงการรถไฟทางไกลซึ่งจะมีการเปลี่ยนจากพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลไปเป็นพลังงานไฮโดรเจน
และการใช้แบตเตอรี่ไฟฟ้า แบตเตอรี่ไฟฟ้า โครงการทั้งหมดนี้เป็นการดําเนินการภายใต้แผนยุทธศาสตร์ของกระทรวงคมนาคม
คือ 1. การขนส่งที่ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 2. การขนส่งที่มี่ประสิทธิภาพ
3. การเข้าถึงระบบขนส่งอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม 4. การใช้นวัตกรรมและการจัดการ" ........ดร.
พูลพัฒน์ ลีสมบัติ ไพบูลย์ ผู้อํานวยการกองการต่างประเทศ สํานักงานปลัดกระทรวงพลังงาน
กล่าวว่า "เพื่อสร้าง แนวทางการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของประเทศไทย กระทรวงพลังงานอยู่ในระหว่างการจัดทํา
"แผนพลังงานแห่งชาติ" โดย คํานึงถึงแนวคิดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งมุ่งเน้นการเสริมสร้างภาคพลังงานของประเทศให้มีความมั่นคงและสร้าง
ความสามารถในการแข่งขันเพื่ออนาคตทางพลังงานที่ยั่งยืน โดยแผนพลังงานแห่งชาตินี้จะกําหนดอนาคตพลังงานของประเทศ
และเปลี่ยนภาคพลังงานให้สะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้พลังงานหมุนเวียนและ
นวัตกรรมด้านพลังงานจะเป็นกุญแจสําคัญในการจัดทําแผนพลังงานแห่งชาติเพื่อขับเคลื่อนทิศทางนโยบายพลังงานให้ประเทศ
ไทยสามารถลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคพลังงาน รวมถึงการสร้างสังคมคาร์บอนตํ่าด้วยการดําเนินนโยบายที่ยั่งยืน
ในระยะยาว" ........"นอกจากนี้
ในปีพ.ศ. 2565 ประเทศไทยจะเป็นประธานและเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นําเขตเศรษฐกิจเอเปก
ซึ่งจัดขึ้นภายใต้ แนวคิดหลัก คือ "โมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว"
(Bio-Circular-Green Economy Model หรือ BCG) โดยมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาความรู้ความสามารถ
เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อนําทรัพยากรด้านพลังงานของประเทศมา ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ทั้งนี้ ภายใต้แนวคิด BCG ดังกล่าว ภาคพลังงานถือเป็นหนึ่งในส่วนสําคัญที่ช่วยพลิกโฉม
ประเทศไทยไปสู่การเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและมีนวัตกรรมต่อไป"นอกจากนี้
ภายในงาน ยังมีเวทีเสวนาหัวข้อ "A move towards a smarter future" ซึ่งมีนายวรรณสิงห์
ประเสริฐกุล นักผลิตสารคดี และผู้ก่อตั้งช่อง "เถื่อน Channel" นายธนัย
โพธิสัตย์ ผู้ก่อตั้ง ReCharge โครงการเพื่อสังคม และแอนโทนี่ ปิยชนม์ เด็กนักเรียนจากจังหวัดเชียงราย
ผู้เสนอโครงการดักจับคาร์บอนในอากาศแปลงเป็นออกซิเจน เสนออีลอน มัสก์ มาบอกเล่าเรื่องราวและแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับวิธีการที่จะช่วยเปลี่ยนแปลงการใช้พลังงานหรือการคมนาคมให้ดีขึ้น ........นิทรรศการ
"พลังงานสะอาดขับเคลื่อนอนาคต" จะเปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 12 - 18 มีนาคม
พ.ศ. 2564 เวลา 10.00 - 22.00 น.ที่ลานกิจกรรมชั้น 3 สามย่านมิตรทาวน์ กรุงเทพฯ ........นิทรรศการนี้
เป็นนิทรรศการสัญจรที่จัดขึ้นโดยสํานักงานต่างประเทศของรัฐบาลเยอรมนีร่วมกับองค์กรความร่วมมือระหว่าง
ประเทศของเยอรมัน (GIZ) ซึ่งสถานที่ต่อไปจะจัดที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
วิทยาเขตขอนแก่น โดยจะนําเสนอการดําเนินงานด้านพลังงานและการคมนาคมสีเขียวของจังหวัด
ระหว่างวันที่ 23 - 27 มีนาคม พ.ศ. 2564 นี้ องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน
(GIZ) เป็นองค์กรของรัฐบาลเยอรมันที่ดําเนินงานด้านความร่วมมือระหว่าง ประเทศเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
GIZ ปฏิบัติงานในนามของหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนทั้งในประเทศเยอรมนีและต่างประเทศ
รวมทั้งรัฐบาลของประเทศต่างๆ สหภาพยุโรป องค์การสหประชาชาติ ธนาคารโลก และองค์กรที่ให้ทุนอื่นๆ
GIZ ดําเนินงานอยู่ในประเทศต่างๆ กว่า 1 20 ประเทศทั่วโลก และมีพนักงานประมาณ 22,000
คน |
|
|
........ |
สอบถามข้อมูลเพิ่ มเติ ม ติ ดต่อ ปริยา วงศาโรจน์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายงานประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน
(GIZ) เบอร์โทร. 092-241 -4241 อีเมล: pariya.wongsarot@giz.de |
|
........ |
|
........ |
|
|
|
หมายเหตุ.
สงวนลิขสิทธ์ภาพและเนื้อหา นอกจากจะได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร |
|
Use
of this site signifies your acceptance of the and . Copyright © 2005 Variety News Edition
Corp. All rights reserved. |