........
........
........ ........

เชียงรายยูไนเต็ด เตรียมปรับทัพใหญ่
ดึงซีอีโอบริษัทออกแบบระดับเอเชีย นั่งแท่นที่ปรึกษาด้านการตลาด
ตอกย้ำภาพลักษณ์ "กว่างโซ้งไม่ได้เจ๋งแค่ในสนาม"

 
........
........สโมสรฟุตบอลเชียงรายตอกย้ำศักยภาพ ทีมไทยลีกระดับภูมิภาค ทีมเดียวที่สามารถขับเคี่ยวกับคู่แข่งขันมาอย่างต่อเนื่อง จนได้รับการยอมรับในภาคสนาม ว่าเป็น 1 ใน 5 ทีมระดับประเทศที่น่าจับตามอง โดยล่าสุดประธานสโมสรเชียงรายยูไนเต็ด หรือ กว่างโซ้ง เตรียมอัดงบประมาณกว่า 300 ล้านบาท ในการปรับภาพลักษณ์พร้อมก้าวเข้าสู่ธุรกิจ Sport Marketing อย่างเต็มตัว โดยมอบหมายให้กลุ่มบริษัท จาร์เค็น จำกัด เป็นที่ปรึกษาด้านการออกแบบและสื่อสารการตลาด และตอกย้ำภาพลักษณ์เชิงรุกอย่างชัดเจน มั่นใจว่าจะสามารถก้าวขึ้นสู่ความเป็นทีมชั้นนำภายใน 2 ปี พร้อมขยายฐานแฟนบอลทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 100%ส่งผลให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
.........นายมิตติ ติยะไพรัช ประธานสโมสรเชียงราย ยูไนเต็ด เปิดเผยถึงการปรับภาพลักษณ์ในครั้งนี้ ว่า "ต้องยอมรับว่า ปัจจุบันตลาดธุรกิจกีฬาในบ้านเรามีการเติบโตเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกีฬาประเภทฟุตบอล ซึ่งที่ผ่านมา ทีมเชียงรายยูไนเต็ด หรือ กว่างโซ้ง นับเป็นทีมหนึ่งที่มีผลงานโดดเด่น จนเป็นที่ยอมรับ ในระดับมืออาชีพ ทั้งในด้านบุคลากร และด้านการบริหารองค์กร เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ของกลุ่มให้ชัดเจนเพิ่มมากขึ้น ล่าสุดได้มอบหมายให้ กลุ่มบริษัท จาร์เค็น จำกัด นำโดย ดร.กุลเดช สินธวณรงค์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เข้าหารือคณะกรรมการสโมสร และแต่งตั้งให้ เป็นที่ปรึกษาของสโมสร เพื่อเสริมสร้างยุทธศาสตร์ของแบรนด์และการตลาดรวมถึงโครงสร้างการบริหารการพัฒนาธุรกิจให้เข้มแข็งเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของเชียงรายยูไนเต็ดในฐานะ Sport Passions ที่ไม่ใช่แค่แบรนด์ทีมฟุตบอลเพียงอย่างเดียว แต่เป็นทิศทางการดำเนินงานและส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การบริหารทีมฟุตบอลเชียงรายยูไนเต็ดอย่างมืออาชีพและยั่งยืน
........
........
........โดยทางบริษัทในกลุ่มจาร์เค็นที่ให้บริการด้านการสร้างแบรนด์ จะเข้ามาดูแลในส่วนของการสื่อสารทั้งภายในและภายนอกระบบการบริหารการจัดการสปอนเซอร์ชิป การตลาด ของที่ระลึกและร้านค้า การออกแบบกลยุทธ์การประชาสัมพันธ์แบบ 360 องศาทั้งหมด เนื่องจากเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการสร้างแบรนด์ระดับเอเชีย แบรนด์ระหว่างประเทศและการออกแบบการสื่อสารการตลาดเป็นอย่างดี โดยมีนายธนพล วิระเทพสุภรณ์ รองประธานสโมสรเชียงรายยูไนเต็ด เป็นผู้ดูแลด้านการบริหารจัดการ และการตลาดทั้งหมดของสโมสรเชียงรายยูไนเต็ด"
........สำหรับ ดร. กุลเดช สินธวณรงค์ ซึ่งไม่ใช่คนหน้าใหม่ในวงการ เป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในการออกแบบ สร้างและพัฒนา consumer brand retail brand และ corporate brand กว่า 18 ประเทศทั่วเอเชียและยุโรป กล่าวว่า "การรุกเข้ามาทำ sport marketing brand ถือว่าเป็นเรื่องที่ท้าทาย เพราะฟุตบอลถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของคนไทยมานานแล้วและการมีฟุตบอลอาชีพยังสร้างมิติใหม่ให้กับวงการฟุตบอลไทย ส่วนตัวยังคิดว่ามีโอกาสอย่างชัดเจนในการพัฒนาให้แบรนด์เชียงรายยูไนเต็ดเติบโตให้ยิ่งใหญ่ขึ้นสำหรับการรับรู้ในอีกหลายๆกลุ่ม ซึ่งผมและประธานสโมสรมองตรงกันว่า นอกเหนือจากชัยชนะในสนามที่ต้องได้ เรายังต้องมีชัยชนะนอกสนามอีกด้วย"
.........ทั้งนี้ ดร. กุลเดช ได้เปิดเผยถึง ขั้นตอนการดำเนินงานในส่วนนี้ เพิ่มเติมว่า " เราได้วางแผนการพัฒนาแบรนด์ของเชียงราย ฯ ไว้ 1 - 3 ปี แบ่งออกเป็น 3 เฟสด้วยกัน เฟสแรก จะมุ่งเน้นการปรับจากภายนอกสนาม อาทิ โลโก้ของสินค้า จากเดิมใช้ตัวย่อ "CRUTD" ซึ่งได้มีการทำรีเสิร์ชถึงการรีแบรนด์ของชื่อย่อใหม่ เป็น "CR" เพื่อทำให้สะดุดตา จดจำง่าย ทันสมัย และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของสินค้า เฟสที่ 2 เป็นการต่อยอดจากโลโก้ "CR" ในการออกแบบและผลิตสินค้าใหม่ๆ อาทิ เสื้อยืด กางเกง หมวก ของที่ระลึกต่างๆ และชุดกีฬา sport wear คอลเลคชั่นพิเศษ สำหรับผู้หญิง รวมไปถึงการเปิด Shop ใหม่ที่สยามสแควร์ และเพลงเชียร์ใหม่ โดยนักร้องนักแต่งเพลงมืออาชีพ เฟสที่ 3 เป็นเรื่องของในสนาม กับการรีโนเวทสนามเชียงรายยูไนเต็ด ให้เป็น sport destination และมีฟังก์ชั่นการใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ภายใต้คอนเซ็ปต์บ้านของกว่าง ที่มีลักษณะเป็นโพรงไม้ แสดงให้เห็นถึงความเติบโตของกว่างในแต่ละโซน สามารถรองรับผู้เข้าชมได้ 22,000 ที่นั่ง
........
 
.........นอกจากนั้นยังมีการสร้างโรงแรม ซึ่งทั้งโรงแรมและสนามเชียงรายยูไนเต็ด คาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบได้ในปี 2561 โดยใช้งบประมาณ 300 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ การดำเนินการ (Performance) 70% การตลาดและประชาสัมพันธ์ 30% โดยล่าสุดทางกว่างโซ้ง ดำเนินการจัดซื้อนักกีฬาอาชีพจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเสริมทัพให้แข็งแกร่ง มั่นใจว่าในเลก 2 จะสามารถสร้างผลงานให้อยู่ในลำดับต้นๆของตาราง อย่างไรก็ตามในปี 2559 นี้กว่างโซ้ง ตั้งเป้าอัตราการเติบโต จากไม่มีกำไรให้สามารถมีกำไรและเติบโตอย่างต่อเนื่อง" ดร. กุลเดช กล่าวสรุป
........
 
เกี่ยวกับเชียงราย ยูไนเต็ด
ความเป็นมาของทีมเชียงราย ยูไนเต็ด
........
.........เมื่อปี พ.ศ. 2542 มีการจัดฟุตบอลอาชีพนำร่อง โดยมีการสร้างลีกจังหวัดชื่อว่า โปรลีก โดยระยะแรกมี 12 ทีม (ยังไม่มีทีมเชียงราย) ต่อมาในปี พ.ศ. 2547 ก็มีการสร้างโปรลีก 2 คัดทีมในระบบภูมิภาค เอาทีมแชมป์ภาคละ 2 ทีม มาแข่งรอบสุดท้ายกับทีมจังหวัดภาคอื่นๆ แชมป์และรองแชมป์ โปรลีก 2 ได้สิทธิ์เลื่อนชั้นขึ้น โปรลีก 1 นั่นคือจุดเริ่มต้นของทีมจังหวัดต่างๆ ทั้งประเทศ (ไม่นับ 12 ทีม จังหวัดในโปรลีก1) จากนั้นลีกของไทยก็มีการรวมทีมในโปรลีก กับไทยลีก ทีมที่อยู่ในโปรลีกส่วนใหญ่ก็กระจายไปตามลำดับคะแนนของปี พ.ศ. 2549 ในลีก ต่างๆ ทั้งไทยลีก ดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 ซึ่งเชียงรายยังอยู่ใน โปรลีกอยู่ต้องทำการคัดเลือกหาแชมป์กับรองแชมป์ โปรลีก ไปเล่น ดิวิชั่น 2 ในปีต่อไปจนมาถึงปี พ.ศ. 2552 มีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง มีการยุบ ดิวิชั่น 2 เดิม กับโปรลีก และได้สร้างลีกภูมิภาคมาแทนที่ เป็นการแข่งขันเฉพาะในภูมิภาค มีชื่อว่า ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 สโมสรฟุตบอลจังหวัดเชียงราย ก็ได้มีการเปลี่ยนผู้บริหาร แยกตัวออกมาจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย มาจดทะเบียนในรูปแบบบริษัทตามข้อกำหนดของ สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (AFC) แล้วย้ายสนามเหย้าจากสนามกีฬากลางจังหวัดเชียงราย มาเป็นสนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และใช้ชื่อสโมสรอย่างเป็นทางการว่า สโมสรฟุตบอลเชียงรายยูไนเต็ด
........."นี่คือจุดเริ่มต้นของการฟุตบอลเล่นลีกครั้งแรก ของสโมสรฟุตบอลเชียงรายยูไนเต็ด" เชียงรายยูไนเต็ดถือเป็นตัวแทนแห่งล้านนาที่กำลังแสดงผลงานโลดแล่นอยู่บนไทยพรีเมียร์ลีก ทีมเดียวจากภาคเหนือ เชียงรายยูไนเต็ดถือเป็นทีมที่ฝันฝ่าอุปสรรคอย่างไม่ย่อท้อ จนถือว่าประสบความสำเร็จ ณ ปัจจุบัน เชียงรายยูไนเต็ดแสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพ แฟนบอลที่สนับสนุนทีมอย่างหนาแน่น ผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์มีความเป็นมือโปรในการจัดการทีม สิ่งต่างๆ เหล่านี้ เป็นแรงสนับสนุนที่สำคัญที่ทำให้เชียงรายยูไนเต็ดเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่ง ที่ทำให้วงการฟุตบอลไทย วงการลีกฟุตบอลอาชีพของไทย เจริญก้าวหน้ากว่าเดิมเป็นอย่างมาก
.........สัญลักษณ์ของทีมคือกว่างโซ้ง กว่างโซ้งเป็นด้วงกว่างตัวผู้มีมากทางภาคเหนือของไทย เมื่อถึงฤดูกว่าง ชาวบ้านจะพากันดักจับกว่างเพื่อนำมาเป็นการละเล่นที่เรียกว่า "การชนกว่าง" โดยกว่างตัวผู้สองตัวจะอยู่บนสังเวียนการต่อสู้ที่เรียกว่า กลอน ที่มีกว่างตัวเมียหรือที่เรียกว่า กว่างแม่อู๊ด(ตามแต่ละท้องถิ่น) เป็นตัวล่อ กว่างโซ้งถือเป็นกว่างที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการต่อสู้ กว่างจะสู้จนไม่มีคำว่าถอย บางครั้งกว่างอาจได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้จนต้องสูญเสียเขา ในการต่อสู้หรือแม้แต่ชีวิต ดังนั้นจึงถือว่ากว่างเป็นสัตว์นักสู้โดยแท้จริง กว่างจึงกลายมาเป็นสัญลักษณ์แทนทีมเชียงรายยูไนเต็ดที่นักเตะมีเลือดนักสู้สมฉายา กว่างโซ้ง นั่นเอง
........
........
Design Concept
.........เป็นการนำเอาสัญลักษณ์ของสโมสร "กว่างโซ้ง" มาตีความในเชิงเปรียบเทียบ เมื่อนึกถึงกว่างโซ้ง ก็จะนึกถึง Character ความเป็นนักสู้ ซึ่งเปรียบเสมือนนักเตะของทีมฟุตบอลสโมสรเชียงรายยูไนเต็ด รวมถึงเหล่าแฟนบอลที่เข้ามาเชียร์ที่จะร่วมสู้จนวินาทีสุดท้าย ไม่มีถอย การที่เราจะทำสนามกีฬาประจำสโมสรขึ้นใหม่นั้น ก็เปรียบเสมือนการสร้าง "รัง" หรือ "บ้าน" ให้เหล่ากว่างโซ้งนับพันนับหมื่น ที่จะมารวมตัวกันในบ้านใหม่แห่งนี้ เพื่อร่วมกันต้อนรับ และต่อสู้กับผู้มาเยือนให้ได้ชัยชนะในทุกๆ การแข่งขัน นอกจากนี้ การเล่นกับคำว่า "รัง" หรือ "บ้าน" นั้นยังเป็นการสร้างความรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของ ความผูกพัน ก่อให้เกิดเป็นความภาคภูมิใจ ที่จะเป็นแรงผลักดันให้ฝ่าฟันอุปสรรค และพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน
.........หลังจากที่เราสร้างความรู้สึกที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันผ่าน Mass และ Space ที่ถูกสร้างขึ้นมาแล้ว ต่อไปคือการมองไปถึงเส้นทางแห่งการเติบโต และต่อสู้ โดยเปรียบการดำรงชีวิตของกว่างนั้น แบ่งออกเป็น 2 ช่วง ซึ่งจะมีสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันตามวิวัฒนาการของตัวกว่างโซ้ง ซึ่งจะถูกตีความหมายผ่านลักษณะของตัวสถาปัตยกรรมอย่างมีเอกลักษณ์
.........ช่วงแรก การดำเนินชีวิตจะอยู่ "ใต้ดิน" ฟูมฟักตัวอ่อนให้แข็งแรง เพื่อเจริญเติบโตออกไปผจญโลกภายนอก ซึ่งจะเปรียบได้กับพื้นที่สำหรับรองรับกิจกรรมต่างๆ รวมถึงทางสัญจรภายในอาคารของนักกีฬา และแฟนบอล ให้ได้พักผ่อน ชาร์ตพลังกายพลังใจ ก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มต้นขึ้น
.........ช่วงที่สอง เมื่อโตเต็มวัยจะเริ่มโผล่จากดินขึ้นมาสู่โลกภายนอก บรรดากว่างจะต้องต่อสู้เพื่อให้มีชีวิตรอด "กลางป่าใหญ่" จึงเรียกได้ว่า "กว่างนักสู้" กว่างที่แข็งแกร่ง ก็จะได้อยู่รอด และขยายพันธุ์สืบต่อไป โดยชีวิตของกว่างเหล่านี้ก็เหมือนกับเหล่านักฟุตบอล และแฟนบอล เมื่อการแข่งขันเริ่มต้นขึ้นแล้วก็จะต้องร่วมกันต่อสู้ ให้กำลังใจกันจนวินาทีสุดท้าย เพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ
"ใต้ดิน" และ "กลางป่าใหญ่" กำลังจะกลายเป็น 2 คำสำคัญที่จะเนรมิตสนามแห่งนี้ให้เป็นเหมือนอัตลักษณ์และจิตวิญญาณของชาวเชียงราย ...
........
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ บริษัท พี อาร์ โซลูชั่น จำกัด
โทรศัพท์ 0-2656-8059 www.prsolution.co.th
คุณจิตฤทัย ทัดเสรีวิบูลย์ โทรศัพท์ 0-83123-5959
........
........
 


หมายเหตุ. สงวนลิขสิทธ์ภาพและเนื้อหา นอกจากจะได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร
Use of this site signifies your acceptance of the Privacy Policy and Terms of Use.
Copyright © 2005 Variety News Edition Corp. All rights reserved.