........
........
........ ........

วช จับมือ สสท. ผลักดันการจัดซื้อจัดจ้างสีเขียวจากภาครัฐ สู่ภาคเอกชน

 
 
.......15 มิถุนายน 2558 ศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์สิ่งแวดล้อม สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ร่วมกับ สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย แถลงข่าว "การขับเคลื่อนนโยบายภาครัฐ สู่การปฎิบัติภาคเอกชน" ภายใต้โครงการจัดทำแนวทางการดำเนินนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างสีเขียวในภาคเอกชน ณ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพฯ
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ
......." เพื่อขับเคลื่อนนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสู่ภาคเอกชนอย่างเป็นรูปธรรม
......." เพื่อผลักดันให้เกิดการผลิตและบริโภคสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
......." เพื่อจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายด้านยุทธศาสตร์การวิจัยการจัดซื้อจัดจ้างสีเขียวของประเทศ
.......โดยมี นางยศวดี อึ้งวิเชียร ผู้เชี่ยวชาญระบบวิจัย (ด้านวิทยาศาสตร์) สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ดร.ขวัญฤดี โชติชนาทวีวงศ์ ผู้อำนวยการ สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย และนายปิติพันธ์ เทพปฏิมากรณ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ทรัพยากรบุคคลและศักยภาพองค์กร บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ให้เกียรติร่วมเสวนา การขับเคลื่อนนโยบายภาครัฐ สู่การปฏิบัติภาคเอกชน
........นางยศวดี อึ้งวิเชียร กล่าวว่า "สินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเกือบทุกประเภท ล้วนมาจากการวิจัยและพัฒนา สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ หรือ วช. ได้ร่วมกับ เครือข่ายองค์การบริหารงานวิจัยแห่งชาติ หรือ คอบช. ซึ่งเป็นหน่วยสนับสนุนงานวิจัยของประเทศ เราช่วยนักวิจัยในการคิดค้นนวัตกรรมและผู้ประกอบการในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมในช่วงเวลานั้นๆ มาโดยตลอด ยิ่งผลิตภัณฑ์ที่ขายดีในปัจจุบัน ก็ยิ่งต้องการงานวิจัยเพื่อผลิตสินค้าที่ดีขึ้นกว่าเดิมเพื่อไม่ให้แพ้บริษัทคู่แข่ง
นอกจากการส่งเสริมด้านการผลิตสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว วช.เองได้เห็นความสำคัญในการผลักดันให้ตลาดสินค้ากลุ่มนี้เติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงร่วมกับสถาบันสิ่งแวดล้อมไทยในการผลักดันการจัดซื้อ จัดจ้างภาคเอกชน เพี่อขยายฐานของผู้ผลิตให้เติบโตสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
........นางยศวดี กล่าวต่อว่า "เราใช้งานวิจัยและพัฒนานำการผลิต ทำให้ลดความเสี่ยงในการลงทุนของภาคเอกชน และสอดคล้องกับทิศทางความต้องการบริโภคสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเป็นผลดีต่อสุขภาพ ซึ่งจะเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและบำบัด/กำจัดมลพิษและค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ซึ่งเป็นงบประมาณแฝงที่พวกเรามิได้พูดถึงกัน"
........ดร.ขวัญฤดี โชติชนาทวีวงศ์ กล่าวว่า "การจัดซื้อจัดจ้างสีเขียว" เป็นการจัดซื้อหรือจัดจ้างผลิตภัณฑ์หรือบริการ โดยคำนึงถึงความเหมาะสมทางด้านคุณภาพ ราคา การส่งมอบสินค้าหรือบริการตามที่กำหนด และการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการผลิตและบริการโดยพิจารณาตลอดทั้งวัฎจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ ปัจจุบันสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในเวทีการค้าโลกมากขึ้น โดยประเทศต่างๆทั่วโลกต่างออกนโยบายและมาตรการต่างๆ ที่เป็นข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมสำหรับผลิตภัณฑ์ที่จะส่งออกหรือซื้อขายภายในและระหว่างประเทศเพิ่มมากขึ้น"
........ดร.ขวัญฤดี กล่าวต่อว่า "ภาคเอกชนซึ่งเป็นอีกภาคส่วนที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากภาคเอกชนมีบทบาทและมีความสำคัญในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในการผลิตและการให้บริการ ซึ่งในแต่ละปีใช้เงินจำนวนมหาศาลในการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการ หากมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดซื้อโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ก็จะก่อให้เกิดการส่งเสริมการผลิตและการบริโภคอย่างเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น
........นอกจากจะช่วยลดต้นทุนการผลิตและลดรายจ่ายด้านการจัดการของเสียที่เกิดขึ้นแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่องค์กรในการมีส่วนร่วมในการฟื้นฟูสภาพแวดล้อม ถือเป็นอีกบทบาทหนึ่งในการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ที่มีส่วนผลักดันและขับเคลื่อนให้เกิดกระบวนการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม"
........นายปิติพันธ์ เทพปฏิมากรณ์ กล่าวว่า "เราจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีส่วนร่วมในการสนับสนุนกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นการลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและลดปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้น................
........
........
........ในฐานะองค์กรภาคเอกชน ปตท.ไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องที่ทั่วโลกให้ความสนใจและวิตกกังวล เพราะเราเป็นส่วนหนึ่งในสังคม เมื่อเราพิจารณากระบวนการจัดซื้อจัดจ้างในภาคธุรกิจของเรา พบว่า หากเรามีการจัดซื้อจัดจ้างทั้งภาคสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จะทำให้ตลาดที่เป็นรูปแบบ Green Market เติบโตดีขึ้น และหากองค์กรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ช่วยกันส่งเสริม สนับสนุนและผลักดันการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้เป็น BAU จะเป็นการขับเคลื่อนภาคผู้บริโภคและประชาชนให้ตื่นตัวในเรื่องนี้มากขึ้น ทำให้ธุรกิจอื่นๆ ทั้งขนาดใหญ่ กลาง เล็ก สามารถผลิตสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อใช้ในประเทศ และส่งออก"
........กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง นั้น ปตท. ได้จัดทำเกณฑ์การจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายในองค์กร ปตท. จำนวน 16 หมวดรายการ เช่น การเช่าซื้อรถยนต์ / การก่อสร้าง รวมถึงการจัดซื้อสินค้า Stationary ที่ได้รับการรับรองฉลากเขียว โดยการประกาศเกณฑ์การจัดซื้อดังกล่าว เป็นนโยบายหลักในองค์กรที่ให้ทุกหน่วยงานใน ปตท. นำไปประยุกต์ใช้ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งผลจากการคำนวณการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในปี 2014 พบว่า ปตท. สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ประมาณ 18,300 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี ซึ่งเทียบเท่ากับ Co-benefit ด้านอื่นๆอีกมากมาย เช่น สามารถลดการใช้น้ำมันเบนซิน 7 ล้านลิตรต่อปี หรือ การลดการใช้ไฟฟ้าประมาณ 180 MWh/ปี
........นอกจากนี้ ปตท. จะมีในการเพิ่มเกณฑ์การจัดซื้อจัดจ้างสีเขียวให้ครอบคลุมสินค้าและบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการของ ปตท. มากขึ้น เพื่อให้มีการนำไปประยุกต์ใช้เป็นเงื่อนไขทางการค้าให้บริษัทคู่ค้าที่ทำธุรกิจร่วมกับ ปตท. หรือที่เรียกว่า Green Supply Chain ตามแนวทางการบริหารจัดการอย่างยั่งยืนของ ปตท. ซึ่งหากเราคาดการณ์ว่า ปตท. มีอัตราการจัดซื้อจัดจ้างเพิ่มขึ้น 5% ต่อปี จะทำให้ ปตท. สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวมได้ประมาณ 24,500 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี ในปี 2020 หรือเทียบเท่าการลดการปล่อยก๊าชเรือนกระจกของโรงไฟฟ้าขนาด 5 MW ตลอดระยะเวลา 7 ปี หรือเทียบเท่ากับการปลูกป่าชายเลน (ต้นโกงกาง) เพื่อเก็บกักคาร์บอนจำนวน 54,100 ไร่
........
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สถาบันสิ่งแวดล้อม ไทย โทร 02 503 3333 ต่อ 524 คุณ วิศรา หุ่นธานี
........
........
 


หมายเหตุ. สงวนลิขสิทธ์ภาพและเนื้อหา นอกจากจะได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร
Use of this site signifies your acceptance of the Privacy Policy and Terms of Use.
Copyright © 2005 Variety News Edition Corp. All rights reserved.